10 เรื่องออนไลน์ คนไทยไม่ตกเทรนด์ ที่พัก-อาหาร ฮิตระเบิดระเบ้อ

  • 11 May 2020
  • 1080
หางาน,สมัครงาน,งาน,10 เรื่องออนไลน์ คนไทยไม่ตกเทรนด์ ที่พัก-อาหาร ฮิตระเบิดระเบ้อ

เผยมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2557 เติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 2,033,493.4 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์มูลค่าในปี 2558 อาจสูงถึง 2.1 ล้านล้านบาท...

เพราะเทรนด์การช็อปปิ้งออนไลน์นั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับประเทศไทย...ยังไม่เคยมีการสรุปตัวเลขด้านมูลค่าตลาดธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ภายใต้สถิติที่เป็นทางการมาก่อน

เรื่องนี้ นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. (ETDA) เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซของประเทศไทยในปี 2557 มีมูลค่ารวม 2,033,493.4 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าอี-คอมเมิร์ซในปี 2556 อยู่ที่ 768,014 ล้านบาท ส่วนจำนวนผู้ประกอบการมีจำนวนทั้งสิ้น 502,676 ราย โดย สพธอ. ได้ทำการสำรวจมูลค่าอี-คอมเมิร์ซจากกลุ่มตัวอย่างของผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซทั่วประเทศ ซึ่งจัดเก็บข้อมูลในช่วงเดือน เม.ย.-ต.ค.2558 เพื่อเข้าถึงมูลค่าการซื้อขายจากผู้ประกอบการประเภทต่างๆ

 

 

ช้อปออนไลน์ เทรนด์ฮิตของผู้บริโภคยุคออนไลน์


ทั้งนี้ ไทยรัฐออนไลน์ ได้สรุปตัวเลขต่างๆ เป็นจำนวน 10 ข้อ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ ดังนี้...

1. จากมูลค่าธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกว่า 2,033,493 ล้านบาท สามารถแบ่งเป็นมูลค่าจาก 3 กลุ่มผู้ประกอบการ คือ ผู้ประกอบการบีทูบี 1,234,226.18 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 60.69% , ผู้ประกอบการบีทูซี 411,715.41 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20.25% และผู้ประกอบการบีทูจี 387,551.76 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19.06%

2. กลุ่มอุตสาหกรรมที่มูลค่าอี-คอมเมิร์ซสูงสุด 3 อันดับแรกของปี 2557 คือ การให้บริการที่พัก 630,159.13 ล้านบาท การผลิต 440,614.78 ล้านบาท และ ข้อมูลข่าวสาร-การสื่อสาร อีก 264,863.87 ล้านบาท จากการแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม คือ...การผลิต, การค้าปลีกและการค้าส่ง, การขนส่ง, การให้บริการที่พัก, ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร,​ การประกันภัย, ศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ, กิจการบริการด้านอื่นๆ

3. หากเปรียบเทียบมูลค่าอี-คอมเมิร์ซในกลุ่มธุรกิจบีทูซี ของปี 2557 ระหว่างไทยและประเทศอื่น จะพบว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีมูลค่าตลาดดังกล่าวสูงสุด (359.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) , จีน (322.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) , ญี่ปุ่น (118.59 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) และเกาหลีใต้ (25.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 5 (11.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ)

4. ส่วนแนวโน้มมูลค่าอี-คอมเมิร์ซของไทยในปี 2558 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 3.65% หรือมีมูลค่าประมาณ 2,107,692.88 ล้านบาท โดยมูลค่าตลาดบีทูซีและบีทูจียังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

สมาร์ทดีไวซ์ ช่วยให้การซื้อ-ขาย สะดวกยิ่งขึ้น


5. โดยอุตสาหกรรมที่มีการคาดการณ์ในปี 2558 ที่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมการให้บริการที่พักและอาหาร ประมาณ 658,909.76 ล้านบาท อุตสาหกรรมการผลิต 350,286.83 ล้านบาท และ อุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่ง 325,077.48 ล้านบาท

6. ในปี 2557 มีจำนวนผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำธุรกิจประมาณ 78.36% และกลุ่มที่ใช้ช่องทางออนไลน์และมีหน้าร้าน ราว 21.64%

7. แม้ว่าก่อนหน้านี้ ผลสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตระบุว่าผู้บริโภคมีความกังวลในการใช้จ่ายออนไลน์ แต่จากการสำรวจมูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซ กลับพบว่าผู้บริโภคนิยมใช้บริการชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก อาทิ การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต , ระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง, โมบายล์ เพย์เมนต์ เป็นต้น

8. ช่องทางการชำระเงินแบบออนไลน์ที่มีผู้นิยมใช้งานสูงสุดคือ อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง ด้วยสัดส่วนกว่า 54.25% รองลงมา คือ บัตรเครดิต/เดบิต 22.39% โมบายล์ เพย์เมนต์ 14.53% และอื่นๆ 8.83%

9. ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการอี-คอมเมิร์ซ ของผู้ประกอบการชาวไทย คือ การขาดผู้มีทักษะด้านอี-คอมเมิร์ซ ในขณะที่การเติบโตนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว, ต้นทุนด้านการขนส่งที่ค่อนข้างสูง ในการคมนาคมขนส่งสินค้า, ค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยี ที่ผู้ประกอบการต้องลงทุนทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อาทิ โครงสร้างภาษี การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ความมั่นใจในการซื้อขายออนไลน์ และความผันผวนของเศรษฐกิจโลกอีกด้วย

 

 

แค่เลือกแล้วใส่ลงตระกร้า และรอรับสินค้าอยู่ที่บ้าน


10. อย่างไรก็ตาม การมาของเทคโนโลยี 4จี และการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ รวมถึงการสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจในการใช้งานอี-คอมเมิร์ซ ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถสนับสนุนการใช้งานอี-คอมเมิร์ซทั้งสิ้น

ผู้อำนวยการ สพธอ. กล่าวอีกว่า การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้ รวมถึงการเพิ่มการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ จะส่งผลให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีแนวโน้มการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่จะขยายช่องทางการค้าสู่รูปแบบออนไลน์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ขณะเดียวกันก็เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคให้มีทางเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังอาจเรียกการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศให้เข้าสู่ตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยมากขึ้น ส่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศอีกด้วย.

ทีมา ไทยรัฐออนไลน์ 

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top